WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ป.ป.ช.ลั่น `ฟ้องเอง` คดีจำนำข้าว หากคณะทำร่วม อสส.-ป.ป.ช.ไร้ข้อสรุป

     นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงกรณีอัยการสูงสุด (อสส.) มีมติสั่งไม่ฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในคดีปล่อยปละละเลยทุจริตโครงการรับจำนำข้าวต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองว่า จากนี้จะต้องมีการตั้งคณะทำงานร่วมเพื่อพิจารณาข้อที่เห็นว่ายังไม่สมบูรณ์ ซึ่งคาดว่าในวันนี้ (5 ก.ย.) หนังสือจาก อสส.จะส่งถึง ป.ป.ช.และจะมีการนำเข้าหารือในที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.วันที่ 9 ก.ย.นี้ เพื่อพิจารณาว่ามีข้อไม่สมบูรณ์ใดบ้าง ตรงตาม 3 ประเด็นที่ อสส.ระบุหรือไม่ ซึ่งป.ป.ช. ก็จะนำกลับไปทำให้สมบูรณ์

    หลังจากนั้น ก็จะดำเนินการตั้งคณะทำงานร่วม โดย ป.ป.ช.จะดูว่า อสส.เสนอมากี่คน เป็นใครและระดับใดบ้าง ตามกฎหมายจะส่งมากี่คนก็ได้ แต่องค์ประกอบ และจำนวนต้องสอดคล้องกันซึ่งเป็นไปได้ว่ากรรมการ ป.ป.ช. อาจเข้าร่วมในคณะทำงานร่วมด้วย เพื่อให้คณะทำงานร่วมได้ทำงานร่วมกันและดำเนินการส่งฟ้องต่อไป

   เมื่อถามว่ากรณีที่ อสส.ระบุว่า ป.ป.ช.ส่งหลักฐานในคดีดังกล่าวไม่แน่น นายปานเทพ กล่าวว่า หลักฐานมีเป็นจำนวนมาก จะไม่แน่นได้อย่างไร ซึ่งอาจจะมีรายละเอียดเยอะ ยังดูไม่ครบทุกส่วน อย่างไรก็ตามจากนี้ไปจะเป็นหน้าที่ของคณะทำงานร่วมที่จะต้องไปพิจารณาว่าหลักฐานส่วนใดที่ไม่สมบูรณ์และไม่เพียงพอ ซึ่งต้องช่วยกันดูไป

   ส่วนกรณี อสส.ระบุให้ป.ป.ช.กลับมาไต่สวนให้สิ้นกระแสความเสียก่อนนั้น เห็นว่าเลยระยะเวลาดังกล่าวมาแล้ว จากนี้เป็นหน้าที่ของคณะทำงานร่วมที่จะไปดูสำนวน ซึ่งอาจเรียกพยานสอบเพิ่มได้ ยืนยันว่าการพิจารณาคดีดังกล่าว ป.ป.ช.ไม่ได้เร่งรัดเกินไป และทำสำนวนสมบูรณ์แน่นหนา ไม่ได้ยึดถืองานวิจัยของทีดีอาร์ไออย่างเดียว คิดว่าระยะเวลาการทำงานของคณะทำงานร่วมคงไม่ใช้เวลายาวนานมากนัก เพราะคดีนี้ประชาชนสนใจติดตามอยู่

    นายปานเทพระบุ ด้วยว่าการพิจารณาของอัยการสูงสุดเป็นการมองคนละมุมกับป.ป.ช. โดยอัยการสูงสุดมองไปที่การทุจริตแต่ป.ป.ช.มุ่งเน้นไปที่การละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ แต่เมื่ออัยการเห็นว่าสำนวนไม่สมบูรณ์ก็ไม่เป็นไร เพราะในอดีตก็มีการตั้งคณะทำงานร่วมร่วมกันมาหลายคดีแล้ว หลังจากนี้เมื่ออัยการสูงสุดทำหนังสือแจ้งรายละเอียดมายังป.ป.ช.แล้ว ก็จะมีการตั้งคณะทำงานร่วมกันภายใน 14 วัน เพื่อสำนวนให้มีสมบูรณ์มากขึ้น และหากท้ายที่สุดอัยการสูงสุดไม่สั่งฟ้องทางป.ป.ช.ก็จะจ้างทนายฟ้องเอง

    "หากคณะทำงานร่วมยังหาข้อสรุปไม่ได้ ป.ป.ช. จะนำกลับมาพิจารณาอีกครั้งและดำเนินการฟ้องร้องเอง"นายปานเทพกล่าว

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!